คนทำงานเดี๋ยวนี้เริ่มหันมาใช้แท็บเลทมากขึ้น เพราะประสิทธิภาพเดี๋ยวนี้มันก็ดีขึ้น แต่ในส่วนของ “ช่างภาพ” iPad Pro มันพร้อมแล้วยังที่จะใช้ทำงานแทนคอมพิวเตอร์
บทความนี้ขอเน้นไปที่ช่างภาพสายพอร์ทเทรท
1. เหมาะกับสาย Lightroom
โปรแกรมทำโทนภาพระดับมืออาชีพที่เห็นหลักๆตอนนี้มี Capture One กับ Lightroom
ถ้าคุณใช้ Lightroom เป็นหลัก iPad Pro ทำงานด้านนี้ได้ดีเยี่ยม แม้ว่าฟีเจอร์จะยังไม่เทียบเท่า แต่ก็สร้างสรรค์โทนภาพได้ดี ไม่แพ้โปรแกรมบนคอม
2. ไม่มีพรีเซ็ทนะ แต่..
Lightroom บน iPad มันไม่มีพรีเซ็ทเหมือนในโปรแกรมนะ แต่เรียกใช้พรีเซ็ทบนคอมได้ด้วยการซิงค์รูปกับคอม และไม่ต้องห่วงว่าต้องทำโทนใหม่ทุกรูป เพราะ Lightroom มันก็อปปี้โทนภาพไปใส่รูปใหม่ได้
3. รีทัชด้วย Photoshop Fix
ลดสิว บีบหน้า ลดต้นขา เพิ่มนม Photoshop Fix ทำได้หมด ถูกสร้างมาเพื่อรีทัชภาพโดยเฉพาะ ในส่วนนี้ถือว่าดีเทียบเท่ากับ Photoshop บนคอม ..แต่ใช้แทนเลยยังไม่ได้ เพราะแอพนี้ใช้รีทัชภาพอย่างเดียว
4. แต่งรูปไฟล์ RAW ได้หลายรุ่น
หลายๆแอพเปิดไฟล์ RAW ได้ด้วยนะ (แม้ว่าส่วนใหญ่จะเปิดได้แต่ทำงานแบบ JPG)
5. ทำงานได้เร็วอยู่
iPad Pro ผมมีรูปไฟล์ RAW ทั้งหมด 2,300 รูป ถ้าความจุไม่ไกล้เต็มคิดว่ามีเยอะกว่านี้ การทำงานด้วย Lightroom รวดเร็วดี ..แต่จะช้าลงถ้าเปิดฟีเจอร์ “เรียกใช้ไฟล์ขนาดเต็ม”
ถ้าเทียบกับ Macbook Air 2013 (แรม 4GB) แค่ 500 กว่ารูปก็สัมผัสได้ถึงความอืดแล้วครับ คอมที่ใช้แต่งรูปก็น่าจะใช้แรม 8-16GB ไปเลยมั้ง
6. ง่ายกว่า iPhone-iPad
Lightroom บน iPad ง่านกว่า iPhone ตรงที่ปรับค่าพาราเมตริกได้ง่าย ดังนั้นถ้าใช้ iPhone แล้วรู้สึกว่ามันยาก iPad Pro จะไม่เป็นอย่างนั้น ด้วยจอที่ใหญ่ เมนูต่างๆก็กดง่าย
และ iPad Pro จะช่วยทำงานภาพดีกว่า iPad ธรรมดา ตรงที่มี “Apple Pencil” เช่น ตัดต่อรูป ลบสิว รีทัชภาพ การที่มีปากกาดีๆจะช่วยงานได้เยอะ
7. จะเอามาตัดต่อภาพต้องคิดดีๆ
แอพตัดต่อรูปก็มีให้เลือกเยอะอยู่ แต่ทำได้เนียนระดับ Photoshop ..เท่าที่ลองใช้หลายๆแอพ ผมว่ายังไม่มี
แอพตัดต่อที่ดีๆก็มี Pixelmator, Photoshop Mix และ PicsArt
8. ไม่มีโทนผิวแบบ Photoshop
ช่างภาพหลายคนใช้ Lightroom ทำโทนภาพ และใช้ Photoshop ทำโทนผิวให้ดูเนียน แอพบน iPad Pro ก็ทำผิวให้เนียนได้อยู่นะ แต่จะดีเท่าทำบน Photoshop หรือไม่ ยังไม่แน่ใจ
แอพที่ช่วยทำโทนผิวได้เนียนก็มี Photoshop Mix
9. มีแอพที่ทำให้งานง่ายขึ้น แต่คุณภาพยังต้องคิด
เช่น ใส่แสงแฟร์สวยๆ ทำได้ง่ายมากๆ มีหลายแอพให้เลือก แต่ไม่ใช่ทุกแอพที่บันทึกไฟล์ภาพคุณภาพสูงได้
สรุปว่ารับงานหลักพัน iPad Pro เอาอยู่
ถ้ารับงานแบบเน้นทำโทนภาพ + รีทัชภาพนิดๆหน่อย iPad Pro ถือว่าเอาอยู่ ทำงานนี้ได้สบายๆมาก เช่น ถ่ายรูปรับปริญา พรีเว้ดดิ้งก็พอได้ งานบุญ งานแต่งตอนเช้าผมว่าสบายๆ
แต่ถ้าเป็นงานที่มีความพรีเมี่ยมหลักหมื่นขึ้นไป iPad Pro น่าจะทำงานได้ในฐานะผู้ช่วย ไม่ใช่เครื่องที่ใช้งานหลัก
